นายจิรายุสถ์ พิตรปรีชา ประธานกรรมการบริหาร ห้างสิริบรรณช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ของจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ผลพวงจากการปรับขึ้นค่าแรงเป็นวันละ 300 บาท ใน 7 จังหวัด ซึ่งเป็นแหล่งที่ตั้งของอุตสาหกรรมต่างๆ รวมทั้งอุตสาหกรรมอาหารนั้น ทำให้โรงงานมีต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นไม่น้อยกว่า 40 % และเพื่อความอยู่รอดจึงต้องทำการปรับราคาวัตถุดิบ ฉะนั้น ในเร็วๆ นี้สินค้าอุปโภค-บริโภคล็อตใหม่ ซึ่งถูกส่งมาจำหน่ายตามห้างร้านต่างๆ ในต่างจังหวัด รวมทั้งจังหวัดตรัง จะต้องถูกปรับราคาสูงขึ้นตามต้นทุนของค่าแรงรายวัน และแน่นอนว่าอาจมีผลกระทบมาถึงประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทั้งนี้ เนื่องจากสินค้าอุปโภค-บริโภคต่างๆ ที่วางจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตนั้น เป็นที่รู้กันดีว่าในปัจจุบันทางห้างแทบจะไม่ได้กำไรอะไรเลย เนื่องจากมีการแข่งขันกันสูง แต่จำเป็นต้องดึงราคาลงมาให้ต่ำที่สุดเพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชน และเป็นใช้กลยุทธทางการตลาดเพื่อเอาใจลูกค้า อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทางห้างรู้สึกกังวลในช่วงอีก 1-2 เดือนข้างหน้าก็คือ การปรับขึ้นค่าไฟฟ้า หรือค่าน้ำมัน ที่จะเป็นการกระหน่ำซ้ำเติมทั้งต่อตัวผู้ประกอบการ และผู้บริโภค โดยเฉพาะธุรกิจ SME ที่อาจอยู่อย่างยากลำบากมากขึ้น ทำให้ทางห้างเองต้องพยายามรัดเข็มขัดเพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย และจะต้องหาทางจำหน่ายสินค้าให้ได้ปริมาณมากขึ้น
นางรัศมี ขจรสิริสิน ประธานชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า การปรับขึ้นค่าแรงเป็นวันละ 300 บาท จะทำให้วัตถุดิบด้านอุตสาหกรรมอาหารสูงขึ้นตามมา หลังจากที่เพิ่งปรับตัวเมื่อต้นปี 2555 ยกเว้นประเภทพืชผักและเนื้อสัตว์ที่ขึ้นลงตามเทศกาล และการที่จะบังคับให้ขายอาหารในราคาจานละ 25 บาท คงทำไม่ได้ นอกจากบางชนิดที่มีวัตถุดิบไม่แพง แต่ทางผู้ประกอบการก็ได้พยายามตรึงราคาไว้ต่ำที่สุด และขายอาหารให้ได้จำนวนมากที่สุด โดยยอมเอากำไรแค่เพียงน้อยๆ เพื่อความอยู่รอด และไม่กระทบต่อผู้บริโภค ทำให้ในช่วงหลังๆ มา แม้จะมีร้านอาหารเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด แต่ก็มีการปิดกิจการไปแล้วจำนวนมากเช่นกัน
|